หัวใจออนทัวร์
แบ่งปันประสปการณ์ => หัวใจออนทัวร์ => Topic started by: Phoenix on January 25, 2010, 05:52:29 PM
-
Langkawi เมืองนกยักษ์..
เคยได้ยินชื่อลังกาวีมานาน ทั้งตำนานและเรื่องเล่า...ในที่สุดเราได้ไปไปเยือน
ตำนานของเกาะลังกาวี...แผ่นดินที่ถูกสาปนานนับ 7 ชั่วคน...
-
การเดินทางจากประเทศไทย สู่งลังกาวี
การเดินทางที่สะดวกคือเดินทางจากจังหวัดสะตูล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากท่าเรือจ.สตูล ค่าเรือ 300 บาท
-
มาติดตามการเดินทางของพวกเรากันดีกว่า... ว่าต่อจากการเรียนดำน้ำที่เกาะหลีเป๊ะนั่นเลย
จากเกาะหลีเป๊ะก็มีเรือ Speed Boat สำหรับเดินทางไปเกาะลังกาวี โดยตรงเช่นกัน โดย สนนราคาอยู่ที่ เที่ยวละ 1200 บาท มีตอนเช้า(10:00 น. )และตอนเย็น(16:00 น.) ใช้เวลาเดินทางพอๆ กับจากฝั่ง คือประมาณชั่วโมงครึ่ง
หลังจกาสอบถามราคา พิจารณาองค์ประกอบต่าง ๆ แล้ว
(ค่าเรือจาก เกาะหลีเป๊ะไปฝั่ง 500 นั่งรถจากฝั่างไปท่าเรือ นั่งเรือไปลังกาวี 300 เบตเสร็จแล้วราคาคงไม่ต่างกัน แน่เวลานั้นต่างแนา) เราจึงตัดสินใจ ใช้บริการเรื่อเที่ยวเช้า
นี่คือท่าเรือ และเรือที่เราโดยสารมา
-
ท่าเรือ speed boats อยู่บริเวณ ท่าจอดเรือใบ โอ้โห...ละลานตาเลย :o
-
ไปถึงลังกาวีก็ต้องรอเอกสาร pass port ก่อนครับ (ที่ทำการ ต.ม. ที่นี่สี่แจ่มมาก อยู่ข้าง ๆ ท่าเรือ Speed boat และที่จอดเรือยอจ นั่นแหละ)
-
เมื่อได้เอกสาร pass port เป็นที่เรียบร้อย เราก็ออกเดินทางกันต่อโดยเหมา taxi ไป cabel car ค่ารถ ที่ต่อรองได้คือ 100 RM (ค่าเงิน ณ วันนี้ 10.60 บ./1RM) taxi ที่ลังกาวี(และหลายๆ ที่ในมาเลเซียที่ไปเที่ยวมา ใช้อัตราเหมาครับ เหมือนๆ กับนั่งรถเมย์บ้านเรานั่นแหละ มีระยะทางและราคาเทียบอยู่(แต่ไม่มีมิเตอร์)
-
ถึง cable car เราก็หาอะไรทานกันก่อน...ทานเสร็จ จะกลับมาขึ้นหน่อย...:D เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ปิดชั่วคราวครับ เนื่องจากลมแรง(เฮ้ยนึกว่าปิด ชั่วคราวแบบยาวนานเหมือนบ้านเราซะอีก) อะไม่เป็นไร งั้นฝากกระเป๋าหน่อยได้ไหมครับ จะเดินไปเที่ยวน้ำตกกันก่อน(ตั้งแต่เริ่มออกเที่ยวต่างประเทศ เราเริ่มมีทักษะภาษามือดีขึ้น (- -") ) พี่เจ้าหน้าทีก็ใจดีครับ รับฝาก เราเลย ออกเดินทางไปเดินชมน้ำตกกันพักใหญ่ ::)
กลับมา เย้ๆๆๆ cable car เปิดแล้ว ขึ้นกันเถอะ (ทำไมแถวยาวจังวะ) เอาซื้อตั๋วกันก่อน พอเข้าแถวก็รู้แล้ว(ทัวร์จากเมืองไทย...คงไม่ต้องบรรยายอะไรมาก)
-
เอ่อเค้าว่า ที่นี่มันเป็นที่สุด ในเรื่องอะไรสักอย่าง...ก็อะไรสักอย่างนี่แหละที่ผมนึกไม่ออก
เอาเป็นว่า ผมว่า มันน่าหวาดเสียวทีเดียวแหละ
-
บนยอดเขามีทางเดินชมวิวด้วย ไม่รู้เค้าเรียกกันว่าอะไรนะ แต่ว่า สวยดี มาทั้งทีก็ไปเก็บภาพกันหน่อย
บรื้อ!!! ความสูงแค่ หกร้อยกว่าเมตร แต่ลมเย็นจนหนาวเลยนะ
-
เราเอ้ยระเหย อยู่จน พระอาทิตย์ตก ลงมาถึงข้าล่างก็มืดแล้ว...พอรับกระเป๋าเสร็จ พี่เค้าก็แยกย้ายกลับกันเลย(แหมแกรงใจใจ กลายเป็นว่า พี่ๆ เค้าอยู่เฝ้ากระเป๋าให้พวกเรากันเหรอเนื้อ ขอบคุณมากครับ)
-
หลังจากนั้นก็หารถ taxi ไปตลาดกั๋วกันต่อ
ที่พักเหรอ..ยังไม่มีครับ ไปเสี่ยงหาเอาข้างหน้า...มั่นใจว่าสามารถ..
ตารางราคาค่าtaxi บนเกาะลังกาวี
-
แล้วเราก็ทำได้จริง ๆ อยู่ใกล้ๆ กับ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้วย คืนละ 700 บาท.นอนได้ครบสมาชิก(5 คน)
เช้าวันรุ่งขึ้นเราเริ่มกันด้วย ไปที่ท่าเรือที่จะเดินทางกลับ ตรวจสอบรายละเอียดการเดินทางกันก่อน เสร็จแล้ว ก็หา taxi เหมาไปเที่ยวกัน
-
เป้าหมายวันนี้ ที่แรก คือสุสาน มัสซูรี
-
สุสานมัสซูรี เป็นสถานที่ที่จัดไว้เป็นเขตสงวนเพื่อคนรุ่นต่อไป ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งห่างจากเมืองกัวห์ ประมาณ 12 กิโลเมตร สถานที่บูชาแห่งนี้ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่หญิงสาวคนหนึ่ง ที่อาศัยอยู่บนเกาะลังกาวีเมื่อ 200 กว่าปีก่อน เธอถูกกล่าวหาว่านอกใจสามี เลยถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยกริชที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ ตามตำนานกล่าวว่า โลหิตของเธอที่ไหลออกมาเป็นสีขาวและก่อนสิ้นชีพ เธอได้สาบแช่งเกาะนี้ว่าขอให้ไม่เจริญมีแต่ความเสื่อมโทรมนาน 7 ชั่วโคตร อย่างไรก็ตาม เวลานั้นก็ได้ผ่านมาจนครบกำหนดกับคำสาบแช่งตามตำนาน ในวันนี้เกาะลังกาวีกำลังเจริญรุ่งเรือง จากการพัฒนาและผู้คนที่หลั่งไหลมาเยือนเกาะลังกาวีเป็นจำนวนมากขึ้นโดยมีความเชื่อว่าใครที่มาแล้วตั้งใจอธิษฐานก็จะสำเร็จสมดั่งใจทุกคน สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เปิดให้ผู้ที่สนใจในเรื่องของตำนานความเป็นมาต่างๆ ตั้งแต่เวลา 08: 00 – 18:30 (ทุกวัน)
-
สถานที่ต่อไป ฟาร์มปลา
เป็นสถานที่แสดงการให้อาหารปลานานาชนิด ซื้ออยู่บริเวณ ป่าโกงกาง ตอนหนึ่งของเกาะ ผมได้ทดลงให้อาหารและลูบตัวเจ้ากระแบนตัวเป็นๆ เป็นความรู้สึกที่พิเศษไปอีกแบบ
-
ได้ดูฝูกนกเหยี่ยวแดงและนกออก โฉบจับปลา นั่นถือว่าเป็นความประทับใจของผม นอกจากนั้นก็ยังมีส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ
ปิดท้ายก่อนกลับกันด้วยการดูค้าคาวในถ้ำ
-
และอีกรั้งเรากลับมายังจตุรัสนกอินทรี (ดาตารัน ลัง ) ทันก่อนพระอาทิตย์ตก ให้ได้เก็บภาพยามเย็น กันจนเป็นที่ถูกใจ ก่อนไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันที่ตลาดกัวห์ รวมถึงเดินหาของฝากจากจากร้านปลอดภาษี แหมมาถึงเมืองปลอดภาษีทั้งที ไม่ซื้ออะไรกลับไปซะหน่อยก็กระไรอยู่นะ
-
:D
-
เช้าวันที่ 3 เก็บของเตรียมตัวเกินทางกลับ เป้าหมายจตุรัสนกอินทรี (ดาตารัน ลัง ) ขึ้นเรือกลับสตูล แล้วก็ต่อรถตู้กลับ หาดใหญ่ เพื่อจะเพิ่มโอกาสในการเลือกรถกลับกรุงเทพ ให้ทันทำงานวันพรุ่งนี้
การเดินทางสัมผัสมนต์ขลัง ..ลังกาวีก็..ทริปนี้ก็ปิดฉากลงเพียงเท่านี้
-
เกาะลังกาวีสวยงามดีครับ น่าไปเที่ยวมาก นั่งข้ามจากเกาะหลีเป๊ะ (http://andaresort.com)ไปไม่นานก็ถึง อีกอย่างเกาะลังกาวีเป็นเขตปลอดภาษีด้วย ช็vปปิ้งกันได้เต็มที่เลยครับ
บนเกาะลังกาวีมีสถานที่เที่ยวอยู่หลายจุดเหมือนกัน ถ้ามีโอกาสก็น่าแวะไปเทียวครับ ถ้าไปจากเกาะหลีเป๊ะ ก็นั่งเรือไปครับ