หัวใจออนทัวร์
แบ่งปันประสปการณ์ => หัวใจออนทัวร์ => Topic started by: Phoenix on March 15, 2011, 03:56:20 PM
-
วันนี้เป็นวันแห่งการเดนิทาง ที่แสนจะประทับใจ เริ่มจากขึ้นยอดภูเขาไฟบาตู วันนี้เราแวะเพียงไม่กี่ที่ แต่ละสถานที่ใช้เวลาคุ้ม
-
หลังจากที่ออกจากวัดน้ำพุศักดิ์สิทธ์เมื่อวาน เราต้องต้องรีบเดินทางต่อไปยัง
ทะเลสาบบาตู ซึ่งคนขับรถอยากให้เราไปถึงก่อนค่ำ แต่ด้วยความที่เรามัว
แต่ถ่ายรูปกันนานไปหน่อย ก้เลยต้อง ผ่านโค้งทางชันในตอนค่ำซะอย่างนั้น
เอง
ปกติเหมือนทุกที่ คือต้องมีการต่อรองค่าทึ่พักกันก่อน..หลังจากนั้นก็..ติดต่อ
และต่อรองค่าไกด์นำทาง ค่าไกด์โหดมาก ระยะสั้นก็ 50 $ ไปแล้ว
ปานกลางก็ 65$ ท่าจะไม่ไหวม้าง แต่ก็ขอดูระยะยาวหน่อยสิ 75$ จ๊าก จะ
ไหวไหมเนี้ยะ
แต่ละแบบมันมีอะไรบ้าง
shot trip ก็เดินขึ้นถึงปากปล่อง มีอาหารเช้าให้ทาน เป็นแซนวิส
ไข่ต้ม(หมกความร้อนภูเขาไฟ) แล้วกล้วยหอม (หมกภูเขาไฟอีกเช่นเดียว
กัน)
medium trip ก็มีเหมือน shot trip แหละแต่ได้เดิน
รอบด้วย
long trip ละก็พาไปทำอาหารเทียง แล้วก็เอาเราไปหมกทาย
ภูเขาไฟ...ใช้เวลากว่าจะลงก็บ่ายๆ
ฟังแล้ว อยากได้แบบ medium แต่ราคาขอบอกว่ารับไม่ได้ งั้นต้อง
ต่อรองหน่อย
ต่อกันสองรอบ พักครึ่งด้วย ที่สุดได้ที่ราคา 170,000 รูเปียร์ต่อคน คิดเป็น
เงินไทยก็ 700 บาท เอาวะพอรับไหว หลังจากตกลงตัดใจแล้วก็ถึงเวลา
จ่ายเงิน..เรายอมจ่ายค่าห้องพักเต็มราคา แต่ขอจ่ายค่าไกด์ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งจะกลับมาจ่ายหลังจากลงจากภูเขาไฟแล้ว ด้วยเหตุผลว่า เงินรูเปียร์ไม่พอ
-
ได้เวลาที่ต้องรีบหาอาหารบรรจุท้องกันแล้ว (โปรดจำไว้ว่าชาวบาหลีนอนเร็วนะ..ร้านค้าจะปิดเร็วมาก อย่านึกอยากกินข้าวต้มรอบดึกละ หาไม่ได้หรอก วันนี้ยังโชคดีนะ ถึงเวลาจะล่วงเลยมาเยอะเราก็ยังหาร้านอาหารได้ แถมได้อร่อยถูกใจด้วย..ที่อร่อยถูกใจคงเป็นเพราะเป็นข้าว+ไก่ทอดร้อนๆ อร่อยมาก(แบบว่าถูกปากมากกว่าทุกมื้อ) ราคาต่อคนก็ 15,000 รูเปียร์ก็ไม่แพงนะ
-
กลับถึงห้องต้องรีบนอนก่อนละพรุ่งนี้ทางโรงแรงจะมาปลุกตอนตีสามเพื่อจะไปรวมกลุ่มเพื่อขึ้นเขา กว่าจะมาปลุกจริงก็ ตีสามครึ่งแล้ว นูราก็ตื่นไปส่งเราที่จุด start ด้วยเช่นกัน
กว่าจะได้เริ่มเดินจริงๆ ก็ตีสี่กว่า ช่วงแรกเดินไปตามถนน ต่อด้วยป่าสน เราแซงกลุ่มอื่นที่บริเวณป่าสน และรวมพร้อมกันอีกครั้งที่กระท่อม ก่อนแยกกันเพราะไปกันคนละทาง เราเบี่ยงขวา(ชุดของเราขึ้นปากปล่อง)
-
เรากะว่าจะไปให้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้น ขึ้นไปถึงยอดทันนะ แต่ว่า..หมอกจากอากาศที่เย็น ปะทะกับความร้อนจากปล่องภูเขาไฟ ทำเอาเราเปลี่ยนใจเลิกคิดถ่ายพระอาทิตย์ไปเลย
ไปด้วย!!!!
-
งั้นเดินไปดูวิธีการหมกกล้วย หมกไข่กันดีกว่า อิอิ ทางเดินต้องลงไปในปล่องนิดหนึ่ง..ไม่ยากอะไร แต่ระวังลื่นหน่อยนะ ไอหมอกกับละอองฝนทำพื้นลื่น แต่ตกไปจะแย่
ดูๆ ไป ขอเค้าหยิบกล้วยบ้าง..ปรากฏว่าเคาทำกล้วยเค้าเสียไปลูกหนึ่ง เนื่องจากความที่มันหมกนานไปหน่อยมันอ่อนตัว(ไม่เหมือนใส่กองไฟนะ เหมือนต้มมากว่า) พอเอาไม้เขี่ยะปุ๊บ บุบคาไม้เลย พอจะใช้มือล้วงไปหยิบก็ร้อนจัด ไม่ไหวมือแทบพอง...
-
มือเช้าเราก็ได้ ไข่และกล้วยที่หมก บวกกับ bali coffee หมอกยังไม่ยอมจาง งั้นก็หาอะไรทำกันดีกว่า...ตามประสาชาวเรา ง้าน เอ้าโดด
โดดเล่นจนได้เพื่อนใหม่ หน้าตี๋เป็นชาวมาเล คุยกันว่าจะมาแลก fb กันที่โรงแรม
(เหอๆทันสมัยซะไม่มี)
-
เมื่อได้เวลาก็เดินกันต่อ เราต้องแยกกับชุดอื่นเพราะซื้อทริปมาไม่เหมือนกัน (อ๋อลืมบอกเราซื้อ medium trip นะ(ราคาที่บอกนั่นแหละ) เอาละสิ คนนำทางชักจะเริ่มงี่เง่าแล้ว จะพาเราลงซะงั้น เราบอกเราได้ได้เดินรอบด้วยสิ ของเรา medium trip นะ ท่าทางคนนำทางของเรา(ไม่อยากเรียกว่าไกด์เลย)เพราะคงเป็นชาวบ้านผู้หญิงคนหนึ่งมากว่า ที่จะเป็นคนที่มีบัตรไกด์ ก็คุณเธอไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับเราเข้าใจได้(ไม่ใช่ความผิดเรา อิ้ว) สุดท้าย ก็ต้องหันไปปรึกษากับอีกคน(คนนี้แหละนำเราขึ้นมา) สรุปว่า ยอมพาเราเดินอีกเกือบๆ กิโล ไปถึงจุดชมปากปล่องอีกจุดค่อยพาลง ก็ยังดีวะ เอาไว้ก่อนละ
----นี่เป็นจุดที่เราตื้อจนได้ไปครับ ----
-
ระหว่างลง เราเริ่มงี่เง่าบ้าง(เค้าคงคิดอย่างนั้นนะ)เพราะเราหยุดเก็บภาพมุมโน่นนี่ไปเรื่อยตามประสาคนชอบ่ถายภาพ จนต้องเร่งแล้วเร่งอีก
ขนาดสายแล้วหมอกยังเยอะอยู่เลย
-
พักชมวิว
-
ค่อยๆ เดิน ค่อยชม
-
หันกลับไปถ่ายภาบยอดภูเขาไฟอีกที ฟ้าเข้มจัง
-
เบื้องหน้าเป็นทะเลสาบ ส่วนตรงข้ามคือ Mt.Agung เป็นภูเขาที่สูงที่สุดที่บาหลี สักที น่าจะลองเดินดู
-
ขาขึ้น หวานบอก "พี่ไทรอหวานด้วยนะ" แต่ว่า ทั้งๆมืด ไม่มีไฟฉาย มันก็เดินนำตลอด :o
ขาลง "พี่ไทอย่ารีบนะ" มันก็เดินอยู่ข้างหน้าอีกแล้ว ;D
"เข้าใจ" เลยละ
-
เพ่งเห็นชัดๆ ว่าวัดที่ผ่านไปเมื่อคืน หน้าตาเป็นไง
-
ทางผ่านป่าสนที่บอกครับ
-
มาถึงจุด start เจ้เอ้ กับนูร่า รออยู่แล้ว (ลืมบอกว่าเจ้แกเดินไม่ไหว ทริปนี้ถูกเจ้พัชหลอกมาเดินป่า ปกติถนัดแต่เดินห้าง)
หลังจากอาบน้ำ นั่งพัก และแลก FB กันเสร็จแล้ว เราออกจากที่พักตอนเกือบๆ เที่ยงเพื่อให้ สมาชิกท่านเดียวของเราได้ทำละหมาดตามหน้าที่บ่าวที่ดีขององค์อัลเลาะ
-
Pura Besakih (The Mother Temple)
-
เป้าหมายต่อไป....Pura Besakih วัดใหญ่บนเชิงเขาซึ่งเป็นที่ขาวบาหลีถือศักดิ์สิทธิ์ ส่วนนักท่องเที่ยวถึอเป็นโปรแกรมต้องไปให้ได้ เพราะคงไม่มี map Guide เล่มไหนไม่กล่าวถึงที่นี่
-
มาถึงก็เจอ....
สมคำลำลือเลย เฮ้ยไม่ใช่
ที่บอกว่าสมคำล่ำลือคือ เรื่องมาเฟีย รีดค่านำชมวัด
มีเป็นทีม มาดักตั้งแต่หน้าวัดเลย ตามเซ้าซี้ตลอดทาง เซ็งจริงๆ
-
เราก็ทำฟอร์มถ่ายโน่นถ่ายนี่ไปเรื่อย
-
ลืมถามว่า เจ้าตัวนี้เค้าเรียกว่าอะไร
-
สามสาว..สีสดกันจริงๆ
-
เจ้เอ้ทนความรำคาญไม่ไหว ยอมตัดสินใจจะจ่ายค่านำทาง..
งั้นขึ้นกันเลย
-
รอใครกันเนี้ยะ..คงไม่ใช่ผมนะ ;D
ก็เค้าไม่ถนัดผ้าถุงนี่นา
-
พอขึ้นมามุมบนจริงๆ ก็ไม่รู้จะถ่ายอะไรซะงั้น
-
ถ่ายคนมาทำพิธีซะเลย
-
ถ่ายจากมุมบนลงมาบ้าง...
-
เจ้ขอทำบุญหน่อย
-
ดูแบบมีคน และไม่มีคนบ้าง
-
:D มุมกว้าง..ฉากหลังเป็นเขา อากุง
-
ดูจนพอใจแล้ว ได้เวลา เดินทางสู่ชายทะเลแล้วครับ...
ระหว่างนั้น เราเวะดูนาขั้นบันไดกันต่อ
-
;D เลนส์ซุมได้แค่นี้ อย่าอิจฉานะ
-
ก่อนถึงที่พัก ผ่านวัดถ้ำค้างคาว เรามาเย็นแล้ว ไม่เห็นมีค้างคาวเลย ก็เลยเด่นเล่นรอบๆ เพราะวัดเล็ก
เก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า
-
เข้ามาถึงตรงนี้ยังไม่เสียค่าใช้จ่าย แค่ถ้าเข้าไปอีกเสียเงินแน่
สังเกตุรูปค้างคาวสีทองที่อยู่บนซุ้มประตู แล้วจะรู้ว่านี่วัดไหน
-
ค่ำคืนนั้น ขอบคุณลุงที่สอนผม ถ่ายรูปพระจันทร์
สอนอะไรบ้างนั้นผมลืมหมดแล้ว..
รู้แต่ว่าคืนนั้นถ่ายมาได้ขนาดนี้ ก็พอใจแล้วครับ..
ครั้งแรกในชีวิตผม ขอบคุณครับ